PC เดสก์ทอป HP - ไม่มีเสียงจากลำโพง (Windows 8)
เอกสารนี้ใช้กับคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป HP และ Compaq ที่ติดตั้ง Windows 8
ขั้นตอนในเอกสารชุดนี้ระบุวิธีแก้ไขปัญหาเมื่อไม่มีเสียงจากลำโพง
ขั้นตอนที่ 1: การใช้เครื่องมือแก้ไขปัญหาใน Windows 8
เครื่องมือแก้ไขปัญหาใน Windows 8 สามารถแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้อัตโนมัติสำหรับคอมพิวเตอร์ของคุณ เช่น การบันทึกเสียง แม้ว่าจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมด แต่แนะนำให้ใช้เครื่องมือแก้ไขปัญหาก่อนพยายามแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง
การเปิดชุดเครื่องมือแก้ไขปัญหา:
- เลื่อนเมาส์พอยเตอร์ไปที่มุมด้านล่างซ้ายของหน้าจอ คลิกขวา จากนั้นเลือก Control Panel (แผงควบคุม) จากเมนูรูปภาพ : Control Panel (แผงควบคุม)
- จาก System and Security (ระบบและความปลอดภัย) คลิก Find and fix problems (ค้นหาและแก้ไขปัญหา)รูปภาพ : ค้นหาและแก้ไขปัญหา
- คลิก Hardware and Sound (ฮาร์ดแวร์และเสียง)รูปภาพ : หน้าจอแก้ไขปัญหา
ขั้นตอนที่ 2: การตรวจสอบเสียงจากเฮดโฟน
มีหัวต่อเฮดโฟนสองประเภทสำหรับคอมพิวเตอร์ HP แบบแรกรองรับเฉพาะการจ่ายสัญญาณเสียงไปยังเฮดโฟน แบบที่สองรองรับการจ่ายสัญญาณเสียงไปยังเฮดโฟนและการใช้ไมโครโฟน หัวต่อจะมีเครื่องหมายกำกับไว้
- หัวต่อที่คอมพิวเตอร์ที่ระบุเฉพาะสำหรับเฮดโฟนอย่างเดียว
รองรับการจ่ายสัญญาณเสียงเท่านั้นและใช้ได้กับเฮดโฟนสามขาปกติเพื่อจ่ายสัญญาณเสียง
รูปภาพ : หัวเสียบสามขาแบบปกติ - หัวต่อที่คอมพิวเตอร์ที่กำกับไว้สำหรับเฮดโฟนและไมโครโฟน
รองรับสัญญาณเสียงและไมโครโฟนเมื่อใช้ร่วมกับเฮดโฟนแบบสี่ขาและไมโครโฟน
รูปภาพ : หัวเสียบสี่ขารับฟังเสียงโดยสามารถใช้หัวเสียบกับหัวต่อทั้งสองนี้ การใช้หัวเสียบสี่ขาที่รองรับไมโครโฟนสำหรับหัวต่อสามขาสามารถใช้เพื่อรับฟังเสียงได้แต่จะไม่สามารถใช้ไมโครโฟนได้เนื่องจากหัวต่อคอมพิวเตอร์สามขาไม่รองรับสัญญาณจากไมโครโฟน
ขั้นตอนที่ 3: การตรวจสอบระดับเสียงและค่าการปิดเสียงใน Windows 8
การตั้งค่าระดับเสียงสำหรับอุปกรณ์เสียงมากกว่าหนึ่งตัวขึ้นไปอาจได้รับการปิดใช้งานหรือตั้งไว้เบาเกินไป มีหลายสิ่งที่สามารถเปลี่ยนระดับเสียงได้ดังนี้ ปุ่มควบคุมระดับเสียงสำหรับลำโพงหรือจอภาพของคุณ การควบคุมระดับเสียงของ Windows และการควบคุมระดับเสียงในซอฟต์แวร์เสียง หากการควบคุมระดับเสียงใดๆ เหล่านี้ถูกปิดเสียงไว้หรือตั้งไว้เบาเกินไป จะมีผลกระทบต่อระบบเสียงทั้งหมด
- หากลำโพงเพาเวอร์ของคุณมีปุ่มควบคุมระดับเสียง ให้หมุนไปครึ่งหนึ่งรูปภาพ : ปุ่มควบคุมระดับเสียงสำหรับลำโพง (ลำโพงของคุณอาจแตกต่างกัน)หากคุณใช้ลำโพงที่อยู่ในจอภาพของคุณ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเปิดใช้เสียงสำหรับจอภาพ และตั้งระดับเสียงไว้ครึ่งหนึ่ง ปรับการตั้งค่าเสียงสำหรับจอภาพของคุณโดยใช้ปุ่มบนจอภาพหรือเมนูบนหน้าจอ เมื่อต้องการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้และการปรับการตั้งค่าลำโพงของจอภาพของคุณ โปรดดูที่เอกสารการสนับสนุนที่มาพร้อมกับจอภาพของคุณรูปภาพ : ปุ่มระดับเสียงและเมนูบนจอภาพ (จอภาพของคุณอาจแตกต่างกัน)
- เลื่อนเมาส์พอยเตอร์ไปที่มุมด้านล่างซ้ายของหน้าจอ คลิกขวา จากนั้นเลือก Control Panel (แผงควบคุม) จากเมนูรูปภาพ : Control Panel (แผงควบคุม)
- คลิก Hardware and Sound (ฮาร์ดแวร์และเสียง) จาก Sound (เสียง) คลิก Adjust system volume (ปรับระดับเสียงของเครื่อง)รูปภาพ : ปรับระดับเสียงรูปภาพ : มิกเซอร์เสียง
- ตรวจดูให้แน่ใจว่าระดับเสียงไม่ได้ปิดไว้ โดยดูที่ปุ่มปิดเสียงรูปสี่เหลี่ยมด้านล่างแถบเลื่อนระดับเสียง หากปุ่มนั้นมีวงกลมสีแดงขนาดเล็ก แสดงว่าปิดระดับเสียงไว้หากปิดระดับเสียงไว้ คลิกปุ่มปิดเสียงเพื่อเปิดเสียง วงกลมสีแดงบนไอคอนลำโพงอาจหายไปเมื่อไม่ได้ปิดเสียงไว้อีกต่อไปปิดเสียงไม่ได้ปิดเสีียง
- หลังจากตรวจสอบว่าไม่ได้ปิดเสียงไว้ ให้ลากตัวปรับระดับเสียงขึ้นไปจนถึงระดับ 75%
- เมื่อทำการทดสอบ คลิกแถบเลื่อนระดับเสียง หากคุณได้ยินเสียง ติ๊ง จากลำโพงทั้งหมด คุณได้แก้ไขปัญหาเรียบร้อยแล้วรูปภาพ : การทดสอบระดับเสียงหากยังไม่ได้ยินเสียง ให้ปรับลำโพงที่ใช้เป็นลำโพงเริ่มต้น จากนั้นทำการทดสอบ
ขั้นตอนที่ 4: การตั้งค่าลำโพงเริ่มต้นและการทดสอบใน Windows 8
ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อตั้งค่าและทดสอบลำโพงเริ่มต้น
- เลื่อนตัวชี้เมาส์ไปที่มุมล่างซ้ายของหน้าจอ คลิกขวา แล้วเลือก Control Panel (แผงควบคุม) จากเมนูรูปภาพ : Control Panel (แผงควบคุม)
- คลิก Hardware and Sound (ฮาร์ดแวร์และเสียง) จากนั้นคลิก Sound (เสียง)รูปภาพ : หน้าต่างเสียง
- หากต่อเฮดโฟนไว้และไม่ได้ใช้เป็นลำโพงหลัก ให้ปลดสายเฮดโฟนตอนนี้ การต่อเฮดโฟนกับคอมพิวเตอร์จะเป็นการปิดเสียงลำโพงอื่น ๆ
- ค้นหาประเภทการเชื่อมต่อของคุณ หากมีการเชื่อมต่อมากกว่าหนึ่งประเภท เช่น HDMI และลำโพง ให้เลือกประเภทการเชื่อมต่อที่ต้องการใช้งาน
ลำโพงหากใช้ลำโพงคอมพิวเตอร์หรือเฮดโฟนปกติ (อุปกรณ์อะนาล็อก) ให้เลือก Speakers (ลำโพง) นี่เป็นค่าเสียงเบื้องต้นสำหรับคอมพิวเตอร์เดสก์ทอป และครอบคลุมการใช้งานกับเฮดโฟน ลำโพงเดสก์ทอป และระบบเสียง 5.1 และ 7.1 จอภาพหลายแบบจะมีลำโพงในตัวและรองรับการเชื่อมต่อแบบลำโพงโดยใช้สายสัญญาณเสียงแยกเพื่อต่อระหว่างคอมพิวเตอร์กับจอภาพ (ไม่ใช่การเชื่อมต่อ HDMI)สัญญาณดิจิตอลขาออกหากต้องการส่งสัญญาณเสียงทั้งหมดจากคอมพิวเตอร์ไปยังลำโพงดิจิตอลหรืออุปกรณ์ดิจิตอล อุปกรณ์เปิดเล่นจะต้องกำกับเป็น Digital Output (สัญญาณดิจิตอล)HDMIหากคอมพิวเตอร์รองรับการเชื่อมต่อ HDMI และคุณพยายามใช้ลำโพงของโทรทัศน์หรือจอภาพ อุปกรณ์เปิดเล่นจะต้องเลือกไว้เป็น HDMI - จากหน้าต่าง Sound (เสียง) เลือก Playback Device (อุปกรณ์เปิดเล่น) จากนั้นคลิก Set Default (ตั้งค่าเริ่มต้น)รูปภาพ : Set Default (ตั้งค่าเริ่มต้น)
- หลังจากเลือก Playback Device (อุปกรณ์เปิดเล่น) เริ่มต้นแล้ว ให้คลิกที่ Configure (กำหนดค่า)
- คลิกตั้งค่าลำโพงจาก Audio channels (ช่องสัญญาณเสียง)รูปภาพ : หน้าต่าง Speaker Setup (ตั้งค่าลำโพง) ที่เลือกระบบเสียง 5.1 เซอร์ราวด์ (ลำโพงห้าตัวและซับวูฟเวอร์หนึ่งตัว)
- คลิก Test (ทดสอบ) เพื่อส่งสัญญาณเสียงไปที่ลำโพงแต่ละตัว หรือคลิกเลือกลำโพงที่ต้องการส่งสัญญาณเสียง
- หากได้ยินเสียงจากลำโพงแต่ละชุดถูกต้อง แสดงว่าเสร็จสิ้นขั้นตอนแล้วหากไม่มีเสียงจากลำโพงทั้งหมดหรือบางตัว หรือหากมีการเปลี่ยนส่วนกำหนดค่า ให้ตั้งค่าลำโพงต่อโดยคลิก Next (ถัดไป) ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อสิ้นสุดการตั้งค่าลำโพงเปิดเล่นเสียง หากยังมีปัญหาระบบเสียง ให้ตรวจสอบการเชื่อมต่อลำโพง
ขั้นตอนที่ 5: การตรวจสอบการเชื่อมต่อลำโพงใน Windows 8
ใช้ขั้นตอนเหล่านี้เพื่อตรวจสอบว่าสายโพงต่อกับขั้วต่อสัญญาณเสียงถูกต้อง
- เลื่อนตัวชี้เมาส์ไปที่มุมล่างซ้ายของหน้าจอ คลิกขวา แล้วเลือก แผงควบคุม จากเมนูรูปภาพ : Control Panel (แผงควบคุม)
- คลิก Hardware and Sound (ฮาร์ดแวร์และเสียง) จากนั้นคลิก Sound (เสียง)รูปภาพ : หน้าต่างเสียง
- หน้าต่าง Speakers Properties (คุณสมบัติลำโพง) จะมีขั้วต่อกำกับรหัสสีสำหรับลำโพงแต่ละคู่ ใช้ข้อมูลนี้เพื่อพิจารณาว่าขั้วต่อใดใช้กับชุดลำโพงใดรูปภาพ : หน้าต่าง Speakers Properties (คุณสมบัติลำโพง) โดยตั้งค่าเสียง 7:1 เซอร์ราวด์ ไว้ตัวอย่างเป็นภาพการตั้งค่าเสียง 7.1 เซอร์ราวด์ โดย:
- L R (เขียว, Line Out) ใช้สำหรับชุดลำโพงด้านหน้าซ้ายและขวา (ขั้วต่อสีเขียว โดยมากกำกับเป็น Line out)
- RL RR (ส้ม) ใช้สำหรับชุดลำโพงหลังซ้ายและขวา
- C Sub (ดำ) ใช้สำหรับลำโพงตัวกลางและซับวูฟเวอร์
- SL SR (เทา) ใช้สำหรับชุดลำโพงฝั่งซ้ายและฝั่งขวา
- สายลำโพงแต่ละเส้นจะต้องต่ออยู่กับขั้วต่อที่ถูกต้องที่ด้านหลังของคอมพิวเตอร์ สีในหน้าต่าง Speaker Properties (คุณสมบัติลำโพง) จะต้องตรงกับสีที่คอมพิวเตอร์
- หากใช้ลำโพงระบบ 5.1 หรือสูงกว่านี้ ให้ต่อสายลำโพงเข้ากับ speaker hardware (มักจะอยู่ที่ซับวูฟเวอร์) จากนั้นเทียบสายลำโพงกับขั้วต่อที่คอมพิวเตอร์โดยใช้สีตามที่แสดงในหน้าต่าง Speaker Property (คุณสมบัติลำโพง)
- หากมีการเปลี่ยนการเชื่อมต่อลำโพง ให้ตรวจสอบสัญญาณเสียงอีกครั้งตามขั้นตอนในหัวข้อ ตั้งค่าลำโพงเริ่มต้นและทำการทดสอบเปิดเล่นเสียง หากคุณยังไม่ได้ยินเสียง ให้ตรวจสอบเสียงจากเฮดโฟน
ขั้นตอนที่ 6: การตรวจสอบเสียงจากเฮดโฟน
หากยังไม่มีเสียง ให้ตรวจสอบสัญญาณเสียงขาออกโดยใช้เฮดโฟน
- ค้นหาสายต่อและปลดสายสัญญาณเสียงจากด้านหลังของคอมพิวเตอร์
- เสียบเฮดโฟนโดยตรงที่ช่องสัญญาณลำโพงขาออกด้านหลังคอมพิวเตอร์ ขั้วต่อสัญญาณลำโพงขาออกอาจมีรูปลำโพงหรือวงกลมพร้อมลูกศรชี้ออก หรืออาจกำกับเป็น OUT
- ทดสอบเสียงใน Windows ดับเบิลคลิกที่ไอคอนระดับเสียงจากทาสก์บาร์ จากนั้นคลิกที่แถบปรับระดับเสียงจาก Volume Mixerรูปภาพ : การทดสอบระดับเสียงทุกครั้งที่คลิกที่แถบควบคุมเสียงหลัก คุณจะได้ยินเสียงบี๊บจากเฮดโฟน
- หากคุณได้ยินเสียงจากเฮดโฟน แสดงว่าอุปกรณ์ในคอมพิวเตอร์ใช้งานได้ และปัญหาอาจไม่เกี่ยวกับลำโพงหรือสายลำโพง ปลดสายลำโพงและต่อลำโพงเข้าไปใหม่หลังจากเสร็จสิ้นให้ทำการทดสอบอีกครั้งโดยใช้ขั้นตอนเดิมข้างต้นกับแถบปรับระดับเสียง หากเสียงยังทำงานไม่ถูกต้องหลังต่อลำโพงใหม่ ให้ลองเปลี่ยนสายลำโพง (หากสามารถทำได้) หรือเปลี่ยนฟิวส์ลำโพงแล้วทำการทดสอบใหม่อีกครั้ง
- หากไม่ได้ยินเสียงจากเฮดโฟน ให้ตรวจสอบว่าต่อลำโพงกับขั้วต่อถูกต้องแล้วลองใหม่อีกครั้ง หากไม่มีเสียง ให้เข้าสู่ขั้นตอนถัดไปหากแน่ใจว่าเฮดโฟนต่อกับขั้วสัญญาณเสียงถูกต้องที่ด้านหลังคอมพิวเตอร์
รูปภาพ : คอมพิวเตอร์ที่มีขั้วต่อสัญญาณเสียง 3 ขั้วรูปภาพ : คอมพิวเตอร์ที่มีขั้วต่อสัญญาณเสียง 6 ขั้ว
ขั้นตอนที่ 7: การคืนค่าไดรเวอร์เสียงใน Windows 8
ไฟล์และค่าเสียงที่มีการเปลี่ยนแปลงอาจทำให้เกิดปัญหากับระบบเสียงได้ กู้คืนไดร์เวอร์เสียงเพื่อรีเซ็ตค่าเสียงสำหรับฮาร์ดแวร์เสียง และเริ่มการกำหนดค่าเสียงทั้งหมดใหม่ใน Windows
บันทึก
หากคอมพิวเตอร์อัพเกรดเป็น Windows Vista ก่อนอัพเกรดเป็น Windows 8 คุณอาจไม่สามารถใช้งานคุณสมบัติทั้งหมดของอุปกรณ์เสียงในตัวที่รองรับมาตรฐาน Audio Codex '97 (AD '97) ได้ แก้ไขปัญหาโดยทำการอัพเกรดไดร์เวอร์เสียง ดูในขั้นตอนที่ 7: การอัพเดตไดร์เวอร์เสียง
ย้อนกลับไปใช้ไดร์เวอร์ที่ติดตั้งก่อนหน้าได้ผ่าน Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์) โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- เลื่อนตัวชี้เมาส์ไปที่มุมล่างซ้ายของหน้าจอ คลิกขวาและเลือก ตัวจัดการอุปกรณ์ จากเมนูรูปภาพ : ตัวจัดการอุปกรณ์
- ดับเบิลคลิกที่ Sound, video and game controllers (ระบบควบคุมเสียง วิดีโอและเกม)
- คลิกขวาที่ชื่ออุปกรณ์เสียง จากนั้นเลือก Properties (คุณสมบัติ)รูปภาพ : คุณสมบัติอุปกรณ์เสียงจาก Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์)
- คลิกที่แท็บ Driver (ไดร์เวอร์)
บันทึก
อุปกรณ์เสียงจะแตกต่างกันไปตามส่วนกำหนดค่าของคอมพิวเตอร์ - คลิก Roll Back Driver (ย้อนไดร์เวอร์)รูปภาพ : ตัวอย่างคุณสมบัติอุปกรณ์เสียง - อุปกรณ์เสียงในคอมพิวเตอร์ของคุณอาจแตกต่างไปจากนี้
- คลิก Yes (ใช่) เพื่อย้อนไปใช้ไดร์เวอร์ก่อนหน้า
- การทดสอบเสียง
หากยังไม่มีเสียง ให้ทำการอัพเดตไดร์เวอร์เสียง
ขั้นตอนที่ 8: การอัพเดตไดร์เวอร์เสียง
ไดร์เวอร์เสียงที่อัพเดตแล้วอาจแก้ไขปัญหาได้หากคอมพิวเตอร์มีปัญหาระบบเสียงหลังอัพเกรดระบบปฏิบัติการเป็น Windows 8 หรือหากคอมพิวเตอร์มีปัญหาระบบเสียงในโปรแกรมซอฟต์แวร์บางตัว
ขั้นตอนที่ 9: การตรวจสอบ Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์) ใน Windows 8
หากไม่ได้ยินเสียง ให้ตรวจสอบจาก Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์) เพื่อพิจารณาสถานะของฮาร์ดแวร์เสียง
- เลื่อนตัวชี้เมาส์ไปที่มุมล่างซ้ายของหน้าจอ คลิกขวาและเลือก ตัวจัดการอุปกรณ์ จากเมนูรูปภาพ : ตัวจัดการอุปกรณ์
- ดับเบิลคลิกที่ Sound, video and game controllers (ระบบควบคุมเสียง วิดีโอและเกม)
- ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ตามการแสดงผลที่แจ้ง:
- หากอุปกรณ์เสียงไม่อยู่ในรายการและคอมพิวเตอร์มีการ์ดเสียง ให้เสียบการ์ดเสียงใหม่ที่เมนบอร์ด ไปที่ขั้นตอนถัดไปหากยังเกิดปัญหาอยู่
- หากอุปกรณ์เสียงปรากฏในรายการพร้อมลูกศรลง แสดงว่าอุปกรณ์ปิดใช้งานอยู่ คลิกขวาที่ชื่ออุปกรณ์เสียง จากนั้นเลือก Enable (เปิดใช้) เพื่อเปิดใช้งานอุปกรณ์ใหม่ ไปที่ขั้นตอนต่อไปหากยังมีปัญหาหลังเปิดใช้งานอุปกรณ์แล้วรูปภาพ : การเปิดใช้งานอุปกรณ์เสียงที่ปิดอยู่
- หากมีอุปกรณ์เสียงแสดงอยู่ ให้คลิกขวาที่ชื่ออุปกรณ์ จากนั้นเลือก Properties (คุณสมบัติ) เพื่อดูข้อมูลการแก้ไขปัญหาเพิ่มเติมจากหน้าต่าง Device Status (สถานะอุปกรณ์) หาก Device Status (สถานะอุปกรณ์) แจ้งว่าอุปกรณ์ทำงานได้ตามปกติ แสดงว่าปัญหาอาจอยู่ที่การตั้งค่าเสียง ลำโพง หรือสายสัญญาณ
ขั้นตอนที่ 10: การตรวจสอบฮาร์ดแวร์ของลำโพง (ระบบไฟ ลำโพงและฟิวส์)
ตรวจสอบลำโพงว่าสายไฟต่ออยู่และลำโพงได้รับไฟเลี้ยงหรือไม่
ลำโพงที่ต้องใช้ไฟเลี้ยงหลายตัว โดยเฉพาะที่มีซับวูฟเวอร์มักจะมีฟิวส์อยู่ด้วย หากไม่มีเสียงมาจากลำโพงแม้เพียงเล็กน้อย ให้ถอดและเปลี่ยนฟิวส์ใหม่ แม้จะไม่คิดว่าฟิวส์ขาด แต่ขอแนะนำให้เปลี่ยนฟิวส์เพื่อให้แน่ใจที่สุด หากฟิวส์ยังอยู่ในสภาพดี คุณก็จะมีฟิวส์สำรองไว้ใช้
- ปิดตัวจ่ายไฟไปยังซับวูฟเวอร์ แล้วถอดปลั๊กออกจากลำโพง
- นำฝาครอบฟิวส์ออก แล้วดูที่หลอดแก้ว หากฟิวส์ด้านในแยกกัน มีจุดสีดำหรือรอยไหม้ ให้เปลี่ยนฟิวส์ใหม่ หากฟิวส์ดูดี ให้เปลี่ยนฟิวส์ต่อไปและเก็บไว้ใช้เป็นฟิวส์สำรอง
- ซื้อฟิวส์ตัวใหม่ แนะนำให้นำฟิวส์เก่าไปร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อเป็นแบบในการซื้อฟิวส์ตัวใหม่ ฟิวส์เก่าใช้เพื่อเทียบกับฟิวส์ใหม่ที่ซื้อจากร้านว่าตรงกัน
- ใส่ฟิวส์ใหม่ ปิดฝาครอบฟิวส์ จ่ายไฟเลี้ยง เปิดลำโพงและทดสอบเสียง
เพื่อป้องกันความเสียหายต่อลำโพงและฟิวส์จากการไหม้ในอนาคต ให้พิจารณาข้อต่อไปนี้ขณะใช้คอมพิวเตอร์:
- ปิดส่วนควบคุมระดับเสียงก่อนส่งไฟเลี้ยงไปยังลำโพง
- ไม่ควรเพิ่มระดับเสียงเกินกว่าครึ่งหนึ่งของช่วงแป้นควบคุม ลักษณะเดียวกับระบบโฮมสเตอริโอคุณภาพสูงอื่น ๆ การทำเช่นนี้จะลดคุณภาพของเสียงและทำให้ลำโพงทำงานหนัก คุณภาพเสียงที่ไม่ดีจะเกิดขึ้นหากเพิ่มระดับเสียงไปที่ระดับสูงสุด เสียงที่หลากหลายระหว่างปรับไปที่ระดับสูงสุดจะสร้างภาระหนักให้แก่ลำโพง
เปิดเล่นเสียง หากยังมีปัญหาระบบเสียง ให้ทดสอบฮาร์ดแวร์เสียงโดยใช้ HP Support Assistant ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเอกสารวิธีใช้ในหัวข้อ การใช้ HP Support Assistant (Windows 8)
อ้างอิงข้อมูลโดย : http://support.hp.com/th-th/document/c03572247
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น